Profhilo vs Sculptra ต่างกันอย่างไร?
Profhilo vs Sculptra เลือกหัตถการฟื้นฟูคอลลาเจนที่เหมาะกับคุณ
ในปัจจุบัน การฟื้นฟูผิวด้วยการกระตุ้นคอลลาเจนได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความยืดหยุ่น หรือมีริ้วรอยก่อนวัย ซึ่งหัตถการที่ถูกพูดถึงบ่อยคือ Profhilo และ Sculptra แต่หลายคนยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกแบบไหน บทความนี้จะช่วยอธิบายถึงความแตกต่าง จุดเด่น และข้อเหมาะสมของแต่ละตัว
Profhilo คืออะไร?
Profhilo เป็นนวัตกรรมการฉีดสารเติมเต็มที่ประกอบด้วยกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid: HA) ความเข้มข้นสูง จุดเด่นคือ
- เติมความชุ่มชื้นลึก ฟื้นฟูโครงสร้างผิวตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้าจนถึงชั้น SMAS
- ลดความมันและสิว เพราะตัวยาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว รูขุมขนจึงเล็กลง
- เจ็บน้อย เพราะใช้จุดฉีดน้อย (5 จุดต่อข้าง) แต่ตัวยากระจายตัวทั่วถึงทั้งใบหน้าและลำคอ
- ผลลัพธ์ยาวนาน 6-12 เดือน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส และลดปัญหาผิวจากความแห้งกร้าน
Sculptra คืออะไร?
Sculptra เป็นสารโพลี-แอล-แลกติกแอซิด (Poly-L-Lactic Acid: PLLA) ที่ออกฤทธิ์โดยตรงกับการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวแท้ จุดเด่นคือ
- ยกกระชับผิวอย่างชัดเจน เหมาะกับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก ต้องการความแน่นเฟิร์ม
- แก้ปัญหาหลุมสิวและผิวย่น ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ผลลัพธ์ยาวนาน 24 เดือน เมื่อทำตามโปรแกรมที่แพทย์แนะนำ
- เหมาะกับผิวที่บางและเสียคอลลาเจนไปมาก เช่นในผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป หรือมีผิวเสื่อมสภาพเร็ว
Profhilo vs Sculptra เลือกแบบไหนดี?
- หากต้องการ ผิวชุ่มชื้น ฉ่ำฟู รูขุมขนกระชับ และผลลัพธ์ไว Profhilo อาจเป็นคำตอบที่เหมาะสม
- หากต้องการ ยกหน้าระยะยาว เพิ่มความแน่นของผิว Sculptra อาจตอบโจทย์มากกว่า
ทั้งสองหัตถการต่างมีข้อดีที่แตกต่างกัน การเลือกจึงขึ้นอยู่กับ ปัญหาผิวเฉพาะบุคคลและเป้าหมายในการรักษา
อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ
แม้ Profhilo และ Sculptra จะเป็นนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามความต้องการ ควรเข้ารับการตรวจประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวินิจฉัยสภาพผิวและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม